IC Markets สำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดมานานจนเชี่ยวชาญจะมุ่งเน้นในการหาโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีๆ โดยจะพิจารณาดูทั้งด้านต้นทุนในการเทรด และเทคโนโลยีในการบริหารจัดการการเทรด เมื่อเอ่ยถึงความคุ้นเคยของบรรดานักเทรดกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มาจากออสเตรเลีย แทบบอกได้เลยว่าไม่มีเทรดเดอร์ท่านไหนที่ไม่รู้จักโบรกเกอร์ IC Markets
โบรกเกอร์นี้ถือได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อันดับต้นๆ หรือ Top 5 ของโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลีย เป็นโบรกเกอร์ที่ก่อตั้งด้วยหลักการที่ว่า “โดยเทรดเดอร์เพื่อเทรดเดอร์” การให้บริการก็จะเน้นไปที่เทรดเดอร์ที่เทรดเป็นอาชีพ (active traders ) เทรดเดอร์ที่เทรดแบบเก็บสั้น (scalpers) หรือเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการมองหาเงื่อนไขหรือสิ่งแวดล้อมในการเทรดแบบมืออาชีพ
มีต้นทุนการเทรดไม่สูงและเข้าถึงได้ง่าย เพราะจุดยืนที่โบรกเกอร์นี้นำเสนอคือเชื่อมต่อช่องว่างระหว่าง ลูกค้ารายย่อยและลูกค้ารายใหญ่ (จำพวกสถาบันการเงิน) ด้วยการนำเสนอทางเลือกในการเทรดที่สมัยก่อนมีให้บริการเฉพาะเทรดเดอร์รายใหญ่ หรือเทรดเดอร์ที่มียอดเงินฝากสูงๆ เท่านั้น
IC Markets คืออะไร
IC Markets เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่จดทะเบียนในชื่อ International Capital Markets Pty Ltd. ปัจจุบันเป็นโบรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และเป็นโบรกเกอร์ที่เติบโตเร็วที่สุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก IC Markets ตั้งขึ้นในปี 2007 ที่ Sydney ประเทศออสเตรเลีย และได้รับในอนุญาตดำเนินการให้บริการการเทรด Forex, CFDs, Futures จาก ASIC (Australian Securities and Investments Commission) และ FSA (Financial Financial Services Authority) ของ Seychelless
โดยมีข้อมูลตามที่เว็บหลักบอกคือ โบรกเกอร์นี้ได้ประมวลผลการเทรดวอลลูมมูลค่ากว่า 646 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนเมษายนปี 2019 โดยการให้บริการหรือสินค้าสำหรับเทรดเดอร์ก็จะเน้นไปที่เทรดเดอร์เริ่มต้นไปจนถึงเทรดเดอร์มืออาชีพ ถึงขนาดมีการโปรโมตว่า “ทางเลือกที่ต้องเลือก” สำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดวอลลูมสูงๆ เทรดแบบเก็บสั้น หรือแม้แต่เทรดเดอร์ที่เทรดด้วยระบบเทรดอัตโนมัต (Algos หรือ EA)
เพราะมีศูนย์กลางข้อมูล เช่นที่ New York Equinix NY4 ที่มีการประมวลผลการเทรดกว่า 500,000 เทรดต่อวัน มีประเภทบัญชีสำหรับเทรดเดอร์เริ่มต้นไปจนถึงเทรดเดอร์มืออาชีพ หรือแม้กระทั่งเทรดเดอร์แบบ MAM/PAMM

ข้อดีของ โบรกเกอร์ IC Markets
- มีการแยกบัญชีลูกค้าต่างหากเพื่อความปลอดภัย กับธนาคารชั้นนำของประเทศ
- เป็นโบรกแบบ True ECN ที่มี Liquidity ระดับแบบเดียวที่พวกสถาบันการการเงินเทรด
- แพลตฟอร์มการเทรดมีทั้ง Metatrader 4/5 และ cTrader
- มีสินค้าให้เลือกเทรดหลากหลาย (ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี พันธบัตร เงินดิจิทัล หุ้น ฟิวเจอร์)
- มี trading tools ฟรี (Trading Central, Autochartist, Advanced Ttrading Tools)
- มีสื่อการเรียนรู้และวีดีโอสำหรับการเรียนรู้มากมาย และอัพเดทอย่างต่อเนื่อง
- สำหรับเทรดเดอร์คนไทย สามารถฝากถอนผ่านธนาคารออนไลน์ไทยได้โดยตรง
ข้อเสียของโบรกเกอร์ IC Markets
- การฝาก ทุนขั้นต่ำสำหรับการฝากครั้งแรก 200 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่ามากเกินไปสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเริ่มต้น เพราะต้องการทดสอบเงื่อนไขการเทรดต่างๆ เช่น ต้นทุนการเทรด ความเร็วในการจัดการออเดอร์ เรื่องการถือออเดอร์ข้ามวัน เป็นต้น
- ไม่มีโปรโมชั่น (อาจเป็นเพราะโบรกเกอร์เองก็มั่นใจว่า ข้อเสนอหรือเงื่อนไขการเทรดดีพอไม่จำเป็นต้องมีโปรโมชั่นมาจูงใจลูกค้ามาก)
ความน่าเชื่อถือของ โบรกเกอร์ IC Markets
- โบรกเกอร์ IC Markets ได้มีดำเนินการมานานตั้งแต่ปี 2007
- ได้รับใบอนุญาตดำเนินการจาก ASIC ที่ถือได้ว่าเป็นหน่วยงานที่เข้มงวดมากในเรื่องของกฏระเบียบและการให้ใบอนุญาต (ดังนั้นเทรดเดอร์จึงสามารถมั่นใจและไว้วางใจได้)
- มีแหล่ง liquidity providers กว่า 50 แหล่ง
- เรื่องเงินทุนของลูกค้าแยกฝากไว้ที่ธนาคาร โดยที่ลูกค้า IC Markets (Australia) ก็จะแยกฝากไว้อยู่กับธนาคารแห่งชาติออสเตรเลีย (National Australian Bank – NAB) และธนาคาร Westpac ออสเตรเลีย (Westpac Banking Corporation) ส่วนลูกค้า IC Markets (Seychelles) แยกเงินทุนลูกค้าไว้ที่ Barclays Bank Seychelles
- สินค้าให้เทรดมีหลากหลายทั้ง Forex, CFD, และ Futures
- เรื่องของการดำเนินการคำสั่งหรือ Execution ทางโบรกเกอร์ได้ใช้ฮาร์ดแวร์แบบเดียวกันกับที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ และมีศูนย์ข้อมูลที่ NY4 และ LD5 ในนิวยอร์กและลอนดอน
การจดทะเบียนองค์กรควบคุมของโบรกเกอร์ IC Markets
- ได้รับใบอนุญาตดำเนินการจาก ASIC (Australian Securities and Investments Commission) ของออสเตรเลีย ที่ถือว่าเป็นองค์กรที่เข้มงวดเป็นอย่างมากในเรื่องของกฏและการออกใบอนุญาต
- ได้รับใบอนุญาตดำเนินการจาก FSA (Financial Services Authority) ของ Seychelless ในปี 2019
เกี่ยวกับค่าบริการการซื้อขายกับ IC Markets (สเปรด คอมมิชชั่น)
IC Markets ก็มีรูปแบบการคิดค่าธรรมเนียมการเทรดแบบโบรกเกอร์รายอื่นๆ คือ เป็นการคิดค่าธรรมเนียมจากสเปรดอย่างเดียว หรือเป็นการคิดค่าสเปรด บวกกับค่าคอมมิชชั่น (อย่าลืมว่ามีต้นทุนอีกอย่างที่เกิดขึ้นสำหรับการถือออเดอร์ข้ามวัน หรือที่เรียกว่า SWAP Fee ถ้าบัญชีที่คุณเปิดไม่ใช่บัญชีประเภท SWAP-Free ก็จะต้องมีต้นทุนเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์) มีประเภทบัญชีเทรดดังนี้
- บัญชี Standard สำหรับ Metatrader 4/5 รวมต้นทุนการเทรดไว้ที่สเปรด เริ่มที่ 1.0 pip ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- บัญชี Raw Spread สำหรับ Metatrader 4/5 แยกต้นทุนการเทรดเป็นค่าคอมมิชชั่นและสเปรด สำหรับสเปรดถือว่าน้อยมากจะเริ่มจาก 0.0 pip เพราะเป็นราคาที่มาจากตลาดหรือ liquidity providers ต้นทุนก็ตกอยู่ที่ 7 ดอลลาร์ต่อการเทรด 1.00 ล็อต หรือ 1,000 ดอลลาร์ (การอ่านค่าคอมมิชชั่นท่านต้องอ่านให้ละเอียดเพราะบางโบรกเกอร์เช่น IC Markets ใช้คำว่า per lot per side อยู่ที่ 3.5 ดอลลาร์ หมายความว่า โบรกเกอร์จะคิดค่าคอมมิชชั่นทั้งจากการเปิดออเดอร์และการปิดออเดอร์นั้นๆ เช่นท่านเปิดเทรดล็อต 1.00 หรือ 1,000 ดอลลาร์ จะเกิดค่าคอมมิชชั่น 3.5 ดอลลาร์ แต่ถ้าท่านปิดออเดอรนั้นๆ ท่านก็จะเสียอีก 3.5 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่าต้นทุนการเทรด 1.00 จะตกอยู่ที่ 7 ดอลลาร์ )
- บัญชี Raw Spread สำหรับ cTrader ต้นทุนอยู่ที่ 6 ดอล หรือสำหรับเปิดออเดอร์ 3.00 ดอล และปิดออเดอร์อีก 3.00 ดอลต่อออเดอร์โดยเปิดที่ล็อตมาตรฐาน 1.00 หรือออเดอร์ละ 1,000 ดอลลาร์ ถ้าเปรียบเทียบกันก็จะเห็นว่า cTrader Raw Spread นั้นถูกว่า Metatrader 4/5 Raw Spread
บทสรุป รีวิว IC Markets
IC Markets เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำ ทั้งด้านต้นทุนการเทรดและเทคโนโลยีในการเทรดที่ถือว่าดีมากๆ ที่บอกว่าเป็นเทคโนโลยีระดับเดียวกับที่เทรดเดอร์ระดับสถาบันการเงินเทรด มีการเสนอเงื่อนไขการเทรดผ่าน 3 ประเภทบัญชีหลักๆ คือ True ECN cTrader, True ECN Metatrader และ Standard ส่วนที่เป็น Metatrader ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดเป็นบัญชีเทรดแบบ Metatrader 4 หรือ Metatrader 5
มีจุดเด่นที่เห็นมากมายเช่น ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับบัญชี Standard และมีสเปรดต่ำโดยเริ่มที่ 1.0 ส่วนบัญชี ECN สเปรดอยู่ในระดับเดียวกับที่พวกสถาบันการเงินเทรดหรือน้อยมากๆ เป็นส่วนมาก เริ่มที่ 0.0 pip มีเรื่องการให้บริการ support 24/7 ให้เลือกหลายภาษา สำหรับคนไทยสามารถฝากถอนผ่านธนาคารออนไลน์ในไทยได้เลย (ในการฝากเข้าแทบจะทันที ส่วนการถอนไม่เกิน 24 ชั่วโมงทำการ ผมแนะให้ทำการถอนก่อน 8 โมงเช้าบ้านเราแล้วจะได้เงินวันนั้นตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไป ถ้าถอนหลังจาก 8 โมงเช้าท่านจะได้เงินวันทำการถัดไป)
มีสินค้าให้ลือกเทรดกว่า 236 ชนิด (Forex, Stocks, Commodities, Indices, Bonds และ Crytocurrency) แพลตฟอร์มสำหรับเทรดมีทั้ง Metatrader 4/5 และ cTrader สามารถเทรดทาง Windows, Mac, Web iOS หรือระบบ Android สำหรับเรื่องค่าคอมมิชชั่นในประเภทบัญชีที่แยกค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นออกจากกัน ที่คิด 3.5 ดอลล่าร์/ลอต/ฝั่งนั้น ถ้าเราคิดรวมทั้งฝั่งเปิดและฝั่งปิดก็เท่ากับ 7 ดอลล่าร์ต่อลอต ซึ่งยังนับว่าน้อยกว่าโบรกเกอร์อื่นๆ ที่คิดเหมารวมทั้งสองฝั่งมาก จึงทำให้โบรกเกอร์นี้มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมกันในเหล่านักเทรดมืออาชีพ
IC Markets ดีไหม จุดเด่น,จุดด้อย ข้อดี,ข้อเสีย คืออะไร ?
( review ฉบับเต็ม)
IC Markets คือ โบรกเกอร์ Forex ที่ประกาศตัวเองว่าเป็นโบรก Forex หนึ่งเดียวในโลกที่เป็น True ECN คือ สั่งคำสั่งซื้อ/ขาย เข้าตลาดโดยตรง ไม่ได้รับกินเอง (แต่จะมีค่า Commission) Spread ต่ำมาก (EUR/USD เฉลี่ยที่ 0.1 pips) , Server เร็ว และ เสถียรในช่วงข่าวแรงๆ ก็ยังสามารถส่งคำสั่งซื้อ/ขาย ได้ปกติ
IC Markets เหมาะสำหรับเทรดเดอรสายเดร์เทรด ,Scalping รวมถึงเทรดเดอร์ทั่วไปเช่นเดียวกัน ซึ่งตรงนี้สร้างความโดดเด่นให้กับโบรกเป็นอย่างมาก อีกทั้ง เป็นโบรกที่มีผลิตภัณฑ์การเทรดค่อนข้างหลากหลาย ทั้ง Forex , Indices , Futures , Stocks , Bond Futures , Commodities และ Cryptocurrency เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ถนัดเทรดหลาย Product สร้างความหลากหลายในการลงทุน
Live Chat ไม่ค่อยดี
ช่องทาง Live chat ไม่ค่อยซัพพอร์ตคนไทยเท่าไหร่ เพราะยังไม่มีทีมงานคนไทยที่คอยตอบคำถามในภาษาไทย โดยจะให้ภาษาเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น
แต่จะมีเจ้าหน้าที่คนไทยที่ให้คำปรึกษาเราผ่าน Email ” rm@icmarkets.com.au ” ที่จะส่งรายการฝากเงินมาในครั้งแรกที่เราสมัคร
IC Markets ดีไหม
– Product การเทรดหลากหลาย ทั้ง Forex , หุ้น , ดัชนี , Crypto , น้ำมัน , ทองคำ , บอนด์ และอื่นๆ
– เป็นโบรกเดียวในโลกที่เป็น True ECN
– ประเภทบัญชีไม่ซับซ้อน มีเพียง 2 ประเภทเท่านั้น เลือกง่าย
ข้อเสีย IC Markets
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการซับพอร์ต ที่ไม่ซับพอร์ตภาษาไทย และรอคิวนานมากๆ ,อีกเรื่องคือสเปรด บอกเริ่มต้น 0.0 จริงๆไม่ควรเอามาโปรโมทให้คนหลงเชื่อ เพราะเทรดจริงๆ IC Markets มีรายได้จากคอมมิชชั่น ที่คิดเป็น Lot ไม่ได้มาจาก สเปรด
- การถอนเงินค่อนข้างยุ่งยากหลายขั้นตอน
- เจ้าหน้าที่ให้บริการ Live chat ภาษาไทย ให้บริการไม่เป็นเวลา (เที่ยงคืน – 8 โมงเช้า ตามเวลาประเทศไทย)
- เว็บไซต์ในหน้าส่วนบุคคลยังใช้งานยาก
- ไม่มีโบนัส หรือโปรโมชั่นใดๆ
- ระยะเวลาถอนค่อนข้างนาน ถอน วันพฤหัส ได้ประมาณ จันทร์-อังคาร
ประเภทบัญชี IC Markets
โดยหลักจะมีประเภทบัญชีอยู่ 2 ประเภท คือ
- Standard : เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป , เล่นรอบระยะกลาง , ไม่เสียค่าคอม แต่สเปรดจะกว้างหน่อย
- True ECN : สเปรดแคบมาก แต่จะเสียค่าคอม , เหมาะสำหรับเทรดเดอร์เล่นสั้นและเร็ว (Scalpers) , เหมาะกับรัน EA ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นประเภทของบัญชีก็ขึ้นอยู่กับตัวเทรดเดอร์ว่าชอบแบบไหนมากกว่า
Platform การเทรด IC Markets
โบรกมี Platform การเทรดที่ค่อนข้างหลากหลายทั้ง MetaTrader 4 , MetaTrader 5 , cTrader , บนมือถือทั้ง iPhone และ Android
อีกทั้งยังสามารถเทรดบนหน้า Website โดยตรงได้อีกด้วย (MetaTrader 4 Web)
EA Lab Trade View
ทาง โบรกเกอร์มีให้การบริการพิเศษ โดยสำหรับเทรดเดอร์ที่มีเงินฝากในการเทรดมากกว่า 200 USD จะมีสิทธิที่จะได้รับการใช้งาน “EA Lab”
ที่ไว้เป็นเครื่องมือช่วยในการสร้าง EA โดยโปรแกรมนี้สามารถสร้าง EA ขึ้นโดยที่เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องเขียน Code เป็นเลย เป็นการช่วยให้เทรดเดอร์สร้าง
EA ผ่านทางเจ้าโปรแกรม EA Lab นี่ได้ … จริงๆ แล้ว EA Lab มีค่าใช้จ่ายรายเดือน เดือนละ 69.50 USD แต่ทาง โบรกเกอร์จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้
ถ้าหากเทรดเดอร์เทรดเกิน 20 Lots ต่อเดือน
หากท่านใดสนใจให้คลิ๊ก “Request EA Lab” ในหน้า Login ด้านบน Website ของเทรดเดอร์ (ต้องมีเงินมากกว่า 200 USD ในบัญชี ถึงจะปรากฏคำสั่งดังกล่าว)
โบนัส IC Markets
ทางโบรก IC Markets ไม่มีนโยบายการจัดโปรโมชั่นต่างๆ … ทางโบรกให้คำอธิบายกับทีมงานเราว่า … ทางบริษัทไม่มีบริการให้โบนัสใดๆ
แก่ลูกค้าของเรา เนื่องจากโบนัสพวกนั้นเป็นเพียงแค่กลอุบายที่ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ตามกฎเกณฑ์ที่แท้จริง โบรกเกอร์ True ECN
ต้องไม่สนับสนุนการกระทำดังกล่าว
การฝากถอน IC Markets
ทางซัพพอร์ตเทรดเดอร์ไทยในส่วนนี้เป็นอย่างมาก มีการเพิ่มช่องทางการฝากเงินผ่านทางธนาคารในประเทศไทยโดยเฉพาะเลย
ชื่อว่า “Fund Now using Thai Internet Banking”
โดยจะเป็นการฝากผ่าน Internet Banking รองรับทั้งหมด 5 ธนาคารในประเทศไทย ได้แก่
1. ธ.กรุงเทพ
2. ธ.กรุงไทย
3. ธ.กสิกรไทย (ช่วงที่ทีมงานทดสอบขึ้น Offline ไม่สามารถฝากผ่านได้)
4. ธ.ไทยพาณิชย์
5. ธ.กรุงศรีฯ
ทางทีมงานได้ทดลองฝากผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ มีค่าธรรมเนียมการฝากอยู่ที่ครั้งละ 10 บาท
เมื่อฝากเสร็จเงินถูกนำเข้าบัญชีทันที
การถอน
ในการถอนครั้งแรก ต้องเข้าสร้างช่องทางการถอนเงินก่อน ว่าเราจะถอนผ่านธนาคารอะไร
พอเราเพิ่มวิธีการถอนเงินเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถเลือกถอนผ่านช่องทางที่เรากำหนดได้
ในเรื่องระยะเวลาการถอนของโบรกนี้นั้นต้องบอกว่าค่อนข้างนานเลยทีเดียว ทางทีมงานทดลองสั่งถอนตั้งแต่บ่ายวันที่ 17 พ.ค. 2018
ได้รับเงินในช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ค. 2018 ซึ่งถ้านับวันทำการก็ตกแล้วอยู่ที่ประมาณ 4 วัน
ขั้นตอนการสมัคร และ การฝากถอน
การสมัคร IC Markets => (คลิ๊กเพื่อสมัคร) โดยส่วนมากแล้ว การสมัครของ โบรก สัญชาติ ASIC มักจะ เรียบง่าย
เปิด หน้าเว็บ IC Markets แล้ว Click ที่ เริ่มการเทรด ซึ่งหน้าตาของเว็บมีการ update ให้ดูสวยงาม แจ่ม .. จากนั้นให้เราทำการกรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ นามสกุล , e-mail และเบอร์โทร
ต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษ นะ.. และ ชื่อ สกุลที่กรอกต้องให้ตรงกับ บัตรประชาชนของเราด้วย ..
ทั้ง ที่อยู่ ก็ต้องเป็นภาษาอังกฤษ ด้วย จากนั้น Click => ต่อไป ระบบจะให้ เลือก ชนิดของ
บัญชี ของเรา ผมเลือก MT4 และ บัญชี Standard ยังไม่กล้าที่จะเลือก ECN เนื่อง มี ค่า Com ด้วย แม้ว่าจะ สเปรด 0 pips ก็ตาม เลือก สกุลเงิน USD จากนั้น click => ต่อไป
ถัดมา ก็จะเป็นการกรอกข้อมูลความปลอดภัย โดยให้เรากรอก คำตอบของความปลอดภัย ผมเลือก คำถาม => สีที่คุณชื่นชอบคือสีใด ตอบ สีเขียว จากนั้น click => ทำการยืนยันและส่ง
จากนั้น ระบบจะส่ง e-mail หาเรา พร้องแจ้ง user , password เพื่อให้เรา ทำการ login เข้าพื้นที่ส่วนบุคคล เป็นอันว่าเสร็จขั้นตอนการสมัครสมาชิกครับ
การยืนยันตัวตน => IC Markets ให้เตรียมเอกสารดังต่อไปนี้เพื่ออัฟโหลดยืนยันตัวตนและที่อยู่
– บัตรประชาขน, ใบขับขี่หรือ Passport อย่างใดอย่างหนึ่ง
– บิลค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์, ค่าบัตรเครดิต
เอกสารดังกล่าวให้ถ่ายรูปแบบชัดๆ ไม่เบลอเพื่อเตรียมอัพโหลดต่อไป
เตรียมไฟล์เอกสารแล้ว Click => อัพโหลดเลย ..
Click => Browse เพื่อ อัพโหลดไฟลเอกสาร ทั้งส่วน บัตรประชาชน และบิลค่าสาธารณูปโภค
จากนั้น สิ่งที่ IC Markets มีเพิ่มเติมจากโบรกอื่น คือ จะให้ อัพโหลด หน้าบัญชี ธนาคารของเราจะใช้สำหรับฝากถอนพร้อมกันเลย
ในภาพ ผม อัพโหลด หน้าหลังของบัตรประชาชน และ หน้าบัญชีธนาคารกรุงเทพครับ
เมื่อเราอัพโหลดเรียบร้อยแล้ว ทาง IC Markets จะใช้เวลาตรวจสอบเอกสาร เป็นเวลา 1 – 2 วันครับ ซึ่งตอนนี้ พอร์ตของเราจะยังถูกใช้ชื่อเป็น บัญชีชั่วคราว อยู่นะครับ
ข้อมูลการ อัพโหลดไฟล์เอกสาร ว่า เรา อัพโหลดไฟล์อะไรไปบ้างแล้ว จากนั้น IC Markets จะแจ้งการยืนยันตัวตนทาง e-mail พร้อมทั้งแจ้ง ID กับ รหัสผ่าน ของ บัญชี มาพร้อมด้วย เท่านี้ ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการยืนยันตัวตนครับ
การฝากเงิน IC Markets => มีหลากหลายช่องทางมากครับ ตั้งแต่ บัตร VISA , PayPal , Neteller , Skrill , Rapip , Bank Wire , Klarna , Bitcoin แต่ในตอนนี้จะขอนำเสนอเฉพาะ
การฝากเงินผ่าน Thai internet Banking เท่านั้น จากนั้นเลือกเมนูหัวข้อ Transfers ตามรูปด้านล่าง และจากนั้นเลือกหัวข้อ “ฝากเงิน”
เลื่อนเม้าส์ลงมาจะเห็น Thai Internet Banking ครับ วิธีนี้รองรับบัญชีเทรดที่อยู่ในสกุลเงิน USD เท่านั้นนะครับ เลือกธนาคารที่เราจะใช้ online banking
เลือกบัญชีเทรดที่จะโอนเงินเข้า ใส่ยอดเงินเป็นเงินบาท ระบบจะแปลงให้ทราบว่าจะได้ USD เท่าไหร่ (เรทที่ใช้เป็น Spot rate ของธนาคารในแต่ละวันครับ)
กด Proceed ระบบก็จะพาไปหน้า Internet Banking ของธนาคารนั้นๆให้เราล๊อคอินเข้าไปยืนยันการทำธุรกรรม
(ธนาคารจะมีการยืนยันด้วยรหัส OTP ที่จะส่งไปทางมือถือที่ลงทะเบียนไว้กับธนาคารตอนสมัคร)
เลือก ธนาคารกรุงเทพครับ
แม้ จะแจ้งว่า ในการฝากเงินครั้งแรกให้ฝากขั้นต่ำ 200 $ ขึ้นไป ผมลองใส่เงินไป 500 บาท หยั่งเชิงดู ปรากกว่าได้ครับ
ดำเนินการตามระบบของ ธนาคาร เงินจะเข้าพอร์ตเรา ประมาณ 5 – 15 นาทีครับ
การถอนเงิน IC Markets => มีหลากหลายช่องทางมากครับ เหมือนกับการฝาก ตั้งแต่ บัตร VISA , PayPal , Neteller , Skrill , Rapip , Bank Wire , Klarna , Bitcoin ในตอนนี้จะกล่าวถึงเฉพาะ
การถอนเงินในประเทศไทยเท่านั้น ให้คลิกไปที่เมนูหัวข้อ Transfers จากนั้นให้เลือกหัวข้อ “ถอนเงิน” จากนั้นจะเห็นในตัวเลขที่ 3 ตามภาพ ให้กดที่มีคำว่า “กดตรงนี้“
เลือกวิธีการถอนเงินเป็น Thai Internet Banking Details แล้วจากนั้นก็เลือกธนาคาร ใส่เลขที่บัญชีธนาคารให้ตรงกับที่เราอัพหน้าสมุดบัญชีธนาคาร
จากนั้นมาดูรายละเอียดการถอนได้เลย ตามปกติ หากเราทำการถอนเงินก่อนเวลา 08.00 น.ในเวลาบ้านเรา เงินจะเข้าภายในวันนั้นเลย หาก ถอนหลัง 08.00 น. เงินจะเข้าในวันถัดไปครับ
โดยรวมแล้ว ผมชอบครับ ในความเรียบง่าย รวบรัดของโบรก IC Markets ตกลง ผ่านครับ พบกันใหม่ตอนต่อไป
IC Markets review วิจารณ์ ข้อดี ข้อเสีย
IC Markets เป็นโบรกเกอร์ของประเทศออสเตรเลีย.. ก่อตั้งขึ้นในเมืองซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย ก่อตั้งโดยทีมงานมืออาชีพในอุตสาหกรรมผู้ให้บริการด้านการเงิน ปัจจุบัน IC Markets โบรกเกอร์ Forex ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย เติบโตอย่างรวดเร็วติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ หลายด้าน
IC Markets โบรกยอดเยี่ยม
IC Markets อยู่ภายใต้การกำกับของ ASIC (ใบอนุญาต: 335692) ตั้งแต่ปี 2009 และใช้บริการธนาคารออสเตรเลียที่เชื่อถือได้อย่าง Westpac และ NAB ในการเก็บเงินทุนของลูกค้าแยกต่างหาก ในกรณีที่ IC Markets เกิดล้มละลาย เงินทุนของลูกค้าจะปลอดภัยและ IC Markets มีประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพกับ Lloyds of London
IC Markets ไม่ได้มุ่งเน้นในการชนะรางวัลใด ๆ และให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าและปรับปรุงเงื่อนไขการเทรดให้ดีขึ้น
แพลตฟอร์มของ IC Markets
IC Markets มี 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และ cTrader
- MT4 เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าของโบรกเกอร์ที่ใช้งาน Mac, iPhone / iPad และ Android รวมถึงเวอร์ชั่น Web Trader ซึ่ง MT4 มีเครื่องมือและทรัพยากรทั้งหมดที่นักลงทุนจำเป็นต้องใช้งาน นอกจากนี้ โบรกเกอร์นี้ยังมีตัวเลือกแบบหลายบัญชีสำหรับ MAM/PAMM Manager ในแพลตฟอร์ม MT4
- IC markets แพลตฟอร์ม MetaTrader 5 (MT5) ในเดือนพฤษภาคม ปี 2017 เนื่องจาก MT5 มีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ โดยที่บริษัท MetaQuotes พยายามที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาดและยังคงใช้งานคู่ขนาน MT4 ที่เป็นที่นิยมสูง
- IC Markets ยังมีแพลตฟอร์ม CTrader ให้เลือกใช้งาน ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบ ECN ชุดผลิตภัณฑ์ cTrader ของ IC Markets มีทั้งบนพีซี เว็บ และโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนซอฟต์แวร์ cAlgo สำหรับการจัดการเทรดแบบอัตโนมัติ
การเปิด ออร์เดอร์
คำสั่งเปิด ออร์เดอร์ สามารถมีปริมาณการซื้อขายได้ตั้งแต่ 1 micro lot (1,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก) ไปจนถึง 250 lots (25 ล้านหน่วยของสกุลเงินหลัก) ผ่านทาง ECN ซึ่งจะมีการจัดเรียงและจัดลำดับราคาเพื่อให้สามารถจัดการกับคำสั่งการซื้อขายขนาดใหญ่ได้แบบ Realtime ผ่านผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายแห่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าได้รับราคาที่ดีที่สุดสำหรับคำสั่งการซื้อขายทุกขนาด
สินค้าสำหรับเทรด
IC Markets มีสินค้าให้เลือกเทรดหลากหลายมาก ไม่ใช่มีเพียงแต่ Forex เท่านั้น ยังมีทั้ง Indices , Commodities , Stocks , Bonds , Crypto และ Futures (เยอะมากกก)
- Forex : กว่า 60 คู่สกุลเงิน
- Indices : ดัชนีกว่า 17 ดัชนีทั่วโลก อาทิ S&P500 , DJIA Index , VIX , AUS200 , CHINA50 , UK100 เป็นต้น
- Commodities : สินค้าโภคภัณฑ์กว่า 19 สินค้า อาทิ ทองคำ , น้ำมัน , ถั่วเหลือง , โกโก้ , กาแฟ เป็นต้น
- Stocks : หุ้นในตลาด ASX (ออสเตรเลีย) , NYSE (สหรัฐ) และ NASDAQ (หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐ) กว่า 120 ตัว
- Bonds : พันธบัตรรัฐบาลทั่วโลก กว่า 6 พันธบัตร (Japan , Europe , UK , US)
- Crypto : สกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์
- Futures : สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทั่วโลก
Spread ของ IC Markets
จัดได้ว่า เป็น Spread ชั้นนำของตลาด ด้วยการสตรีมมิ่งราคาจากธนาคารและแหล่งสภาพคล่องแบบดาร์คพูลกว่า 50 แห่ง สภาพแวดล้อมในการเทรดแบบ True ECN ที่ใช้เซิฟเวอร์ที่มีเวลาแฝงน้อยและเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่จะช่วยให้คุณได้ทำการเทรดที่ราคาที่ดีที่สุดเสมอ สเปรดสามารถลดลงต่ำสุดได้ถึง 0.0 pips บนแพลตฟอร์ม True ECN MetaTrader 4, 5, และ cTrader
ประเภทบัญชีของ IC Markets
บัญชี Standard , บัญชี TRUE ECN , บัญชี cTrader ECN , บัญชีอิสลามฟรีค่า Swap (Islamic/ Swap Free) โดย เฉพาะบัญชี TRUE ECN จัดได้ว่าดีที่สุด ณ ตอนนี้ เพราะว่าเป็นโบรกที่มี Liquidity provider เยอะมาก (50 กว่าแห่ง … ปกติโบรกดีๆส่วนมากเต็มที่ก็ 10 กว่าที่เท่านั้น) ซึ่งการที่ LP ยิ่งเยอะ ยิ่งทำให้ Bid Offer ต่ำ , Spread แคบ , สภาพคล่องสูง , และการดำเนินคำสั่งซื้อขายเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
ข้อดี-ข้อเสีย ของ IC Markets
ข้อดี
- Leverage 1:500
- สเปรตเริ่มต้นที่ 0 pips (True ECN)
- ติดอันดับโบรกเกอร์ที่ Spread ต่ำที่สุดในโลก
- มีบัญชีให้เลือก 3 ประเภท บัญชี True ECN มีค่าคอมน้อยมากเมื่อเทียบกับโบรกอื่น
- มีบัญชี MAM / PAMM
- ช่องทางฝาก-ถอน ธนาคารไทยออนไลน์แบงค์กิ้ง, Paypal, Neteller, Skrill, Webmoney
- การส่งคำสั่งซื้อขายรวดเร็ว(เซิร์ฟเวอร์การค้าใน NY4 & LD5 IBX)
- มีบริการวิเคราะห์ทั้งทางพื้นฐานและเทคนิครายวันฟรี
- ไม่มี re-quotes
- เป็นโบรกที่มีความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสสูง
- บัญชี เดโม ไม่มีวันหมดอายุ
- การฝาก-ถอน ฟรีค่าธรรมเนียมทุกช่องทาง
- มีฝึกอบรมฟรี forex
ข้อเสีย
- ไม่มีโปรโมชั่นจูงใจอะไร
- การฝากขั้นต่ำครั้งแรก $200 (ครั้งต่อไปเท่าไหร่ก็ได้)
การฝาก ถอนเงิน
วิธีฝากถอนเงินโบรกเกอร์ IC Markets สำหรับลูกค้าไทยมีด้วยกันอยู่ประมาณ 5 วิธีครับ จะเน้นเฉพาะฝากถอน ผ่านธนาคารไทย
- ฝาก-ถอนเงินผ่านธนาคารไทย
โดยมี 5 ธนาคารคือ กรุงเทพ, กสิกร, กรุงศรี, SCB, KTB ฝากเงินสูงสุด 500,000 บาทขึ้นอยู่กับ limit ของธนาคารฝากเงินต่ำสุด ฝากขั้นต่ำครั้งแรก USD200 ครั้งถัดไปต่ำสุดผ่าน Internet Banking อยู่ที่ 300 บาทครับ
IC Markets ถอนเงินผ่านธนาคารไทยต่ำสุด $1 คำสั่งการถอน หรือ Withdrawal Request นั้นทาง IC Markets มีการตัดคิวที่เวลาตอนเที่ยงวันตามเวลาซิดนีย์ ออสเตรเลีย (หรือ 8 โมงตามเวลาประเทศไทย ในกรณีที่เวลาห่างกัน 4 ชม. อาจมีการเปลี่ยนแปลงตาม Daylight Saving Period)
นั้นหมายความว่า คำสั่งการถอนที่มีเข้ามาก่อนเที่ยงที่ซิดนีย์จะได้รับการ Process โดยฝ่ายบัญชีภายในวันนั้น เช่นเดียวกับวิธีการถอนวิธีอื่นๆ ซึ่งหลังจากได้รับการ Process แล้วระยะเวลาที่ใช้สำหรับเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารในไทยคือ 1-2 ชั่วโมง (อาจจะนานกว่านี้ ถ้าหากปริมาณของคิวมีจำนวนมาก แต่ไม่เกิน 24 ชม) การถอนนั้นไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น
ผมเคยถอนช้าสุด 6 ชั่วโมงครับ ซึ่งต้องถอนเข้าบัญชีภายใต้ชื่อของเจ้าของบัญชีเทรดเองเท่านั้น และต้องกลับเข้าบัญชีธนาคารที่มีการใช้ในการฝากเข้ามาที่ IC Markets แล้วเท่านั้น สำหรับยอดการถอนสูงสุดต่อหนึ่งธุรกรรม คือ 50,000 บาท (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง) จ
ฝาก-ถอน ผ่าน Neteller
(เลือกจุดประสงค์การโอนเงินเป็น Gambling นะครับ เพราะ Neteller จัดหมวดหมู่การเทรดฟอเร็กซ์ให้เป็น Gambling)
ฝาก-ถอนผ่าน Skrill
ฝากถอนผ่าน Fund by Wire Transfer/Bank Transfer/TT
(ไม่แนะนำเพราะอาจจะโดนธนาคารถามเยอะว่าโอนเงินไปทำอะไร)
Paypal (Paypal Balance only for Thai)
ฝากเงินเข้ากระเป๋าเงินของ Paypal ก่อนแล้วจึงฝากเข้าพอร์ตเทรดอีกที
Webmoney
เงื่อนไขในการฝากถอนเงิน IC Markets
- ฝากเงินทางไหนต้องถอนเงินทางนั้น
- ฝากเงินครั้งแรกขั้นต่ำ $200 ส่วนฝากครั้งต่อไปเท่าไหร่ก็ได้
- ถอนเงินขั้นต่ำเท่าไหร่ก็ได้ ไม่มีจำนวนเงินถอนขั้นต่ำ
- ถ้าฝากเงินเข้ามาหลายๆ ช่องทางเช่น Neteller Skrill Paypal ต้องถอนเงินออกตามช่องทางดังกล่าวตามจำนวนที่ฝากเงินเข้ามา ส่วนกำไรที่เกิดขึ้นสามารถถอนทางไหนก็ได้ที่ฝากเงินเข้ามา IC Markets ถอนเงินผ่านธนาคารไทยสูงสุด 50,000 บาท/วัน (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)
- ถ้าถอนเงินด้วยบัตรเครดิต/เดบิต จะไม่มีค่าธรรมเนียม การถอนเงินด้วยวิธีนี้เงินจะเข้าบัตรของภายในเวลา 3-5 วันทำการ อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าในบางกรณีการถอนเงินด้วยวิธีนี้อาจใช้เวลาสูงสุด 10 วันทำการขึ้นอยู่กับธนาคารปลายทาง
- การถอนเงินผ่าน Paypal / Neteller / Skrill จะต้องมาจากบัญชีเดียวกันกับที่เงินได้ถูกส่งมา การถอนเงินด้วยวิธีการเหล่านี้จะไม่มีค่าธรรมเนียมและเงินจะเข้าบัญชีในทันที
บทสรุป
IC Markets โบรกเกอร์ Forex ที่ถือว่ามีความครบเครื่องรอบด้านไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบริการต่างๆ, เรื่องระบบการเทรด, ค่า Spread ที่ต่ำ การฝากถอนเงินที่คล่องตัว, และความน่าเชื่อถือของตัวโบรกเกอร์เอง หากนักลงทุนกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex ที่ครบเครื่องตอบโจทย์ได้หลายด้าน IC Markets ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี สำหรับเทรดเดอร์ที่มีสนใจความสนใจในการเทรดในตลาด Forex ได้ ส่วนตัว ติดใจในบัญชี True ECN ครับ