ความหมายและประโยชน์ของ Gap ในตลาด Forex

 

ความหมายและประโยชน์ของ Gap ในตลาด Forex


ช่องว่างหรือ Gap เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่ช่วยในการวางแผนการลงทุน เรียนรู้เกี่ยวกับ Gap ในบทความนี้และเริ่มทำการลงทุนง่ายๆ เพียงคลิกปุ่มด้านล่าง







ทำความรู้จักกับ Gap ในตลาด Forex

Gap Forex  คือ “ช่องว่าง” ของกราฟราคา ที่เกิดจากการกระโดดขึ้นหรือลดลงของราคา ซึ่งสิ่งนี้อาจเกิดจากความไม่บาลานซ์ของ demand และ supply ในตลาด Forex หลัก ๆ แล้ว Gap Forex คือการผันผวนของกราฟราคา ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดช่องว่างเนื่องจากช่วงปิดของแท่งเทียน (Candlestick Chart) อันเก่า กับช่วงปิดของแท่งเทียนใหม่นั้นแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการผันผวนของกราฟราคาอย่างรุนแรง (ตามภาพ)



ช่องวางราคา หรือ ที่เรียกว่า Gap


ลักษณะหรือรูปแบบของ Gap

ในตลาด Forex สามารถแบ่ง Gap ได้เป็น 4 ประเภท

1. Common Gap



ประเภทนี้เป็น GAP แบบธรรมดา (ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้ว) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกราฟราคาก่อนหน้าที่จะเกิด GAP ประเภทนี้ไม่ค่อยมีนัยสำคัญ เป็นช่องว่างแบบทั่วไปที่จะกลับมาในภาวะปกติภายในสอง-สามวัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะพบได้ในช่วงราคาที่มี Sideway ขึ้น-ลง

การเทรด: เมื่อเกิด Common Gap ผู้เทรดอาจทำการเปิดออเดอร์ตรงกันข้าม โดยดูแนวโน้มหรือคาดการณ์ว่า Gap จะปิด หรือกราฟราคากลับมาเป็นปกติ

2. Breakaway Gap




Gap รูปแบบนี้พบได้ไม่ค่อยบ่อยนัก เกิดจากการที่ค่ากราฟราคา พุ่งทะลุ (Breakout) ในแนวรับหรือแนวต้าน หรืออาจวิ่งจากราคาที่เป็น sideway โดยส่วนมากแล้ว Gap ประเภทนี้ จะอยู่เป็นรูปแบบของ sideway ที่อยู่ในกรอบสามเหลี่ยม หากกรณีมีการซื้อ/ขาย จำนวนมาก ราคานั้นก็จะพุ่งขึ้นไปข้างบนหรือข้างล่างเลย

การเทรด: ถ้าเกิด Gap ประเภทนี้ ให้เรารีบหาโอกาสซื้อหรือขายตามทันที

 3. Runaway Gap

เป็นลักษณะของ Gap พบได้บ่อยหลังจากเกิด Breakaway Gap ซึ่งมักเกิดขึ้นในระหว่างแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงแบบเห็นได้ชัด ถ้าหากเกิด Runaway Gap ขึ้น มันจะเป็นการันตีได้ว่าทิศทางหรือแนวโน้มราคานั้นมีความแข็งแรง



การเทรด: Gap ประเภทนี้ โดยทั่วไปแล้วไม่สามารถเทรดได้ อย่างไรก็ตามสามารถเพิ่มตำแหน่ง (Position) ของเดิมที่มีอยู่ได้

4. Exhausting Gap




Gap รูปแบบนี้เราต้องระวัง เพราะแสดงถึงการจบของแนวโน้ม เป็นการกระโดดขึ้นหรือลง ของราคาครั้งสุดท้าย ในรูปแบบ Exhausting Gap นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าตลาดเริ่มหมดแรง หลังจากนั้นกราฟราคาก็จะเลื่อนมาปิดช่องว่าง (Gap) และสุดท้ายก็จะเปลี่ยนทิศทางไปในที่สุด

ยกตัวอย่างคือ กราฟราคากำลังเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องไปในทิศทางขาขึ้น และซักพักก็เกิด Gap ขึ้นมา ซึ่งขณะนี้เราจะดูไม่ออกว่านี่เป็น Runaway Gap หรือ Exhausting Gap เราจึงต้องรอซักพัก เพื่อดูแนวโน้มของราคาคา ว่ามันจะเพิ่มหรือลด หากราคานั้นลดลงมาเปิดช่องว่าง (Gap) ในตอนนี้เราก็จะสามารถอ่านออกแล้วว่านี่คือ Exhausting Gap อีกทั้งสามารถคาดการณ์ได้ว่ากำลังจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มของกราฟราคาจากขาขึ้นเป็นขาลง

การเทรด: ถ้าเกิด Gap ประเภทนี้ขึ้น เราควรเตรียมตัวออกจากออเดอร์ และเมื่อมีการคอนเฟิร์มจึงค่อยเข้าออเดอร์อีกครั้งในทิศทางใหม่


แสดงความคิดเห็น (0)